แชร์

สามีคนต่างชาติ รับบุตรภรรยาคนไทยแล้วมีบุตรบุญธรรมได้ไหม

อัพเดทล่าสุด: 20 พ.ค. 2025
2 ผู้เข้าชม

 

สามีต่างชาติสามารถรับบุตรเป็นบุตรบุญธรรมได้หรือไม่ และต้องดำเนินการอย่างไรตามกฎหมายไทย

ในกรณีที่มารดาชาวไทยหย่าขาดจากสามีคนไทย และมีบุตรติดจากความสัมพันธ์ดังกล่าว ต่อมาได้สมรสใหม่กับบุคคลสัญชาติอื่น เช่น ชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอยู่ในประเทศไทยหรือใช้ชีวิตคู่กับมารดาอย่างต่อเนื่อง

หากสามีต่างชาติมีความประสงค์จะรับบุตรติดของภรรยาเป็นบุตรบุญธรรมตามกฎหมายไทย จะสามารถทำได้หรือไม่ และต้องทำอย่างไร?

บทความนี้จัดทำขึ้นโดย Knight Legal International เพื่อให้ความรู้เชิงกฎหมายเกี่ยวกับการรับบุตรบุญธรรมระหว่างชาวต่างชาติกับบุตรชาวไทย ภายใต้หลัก กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไทย หมวดการรับบุตรบุญธรรม พร้อมแนวทางปฏิบัติและคำแนะนำจากทนายความ


หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง


การรับบุตรบุญธรรมในประเทศไทยอยู่ภายใต้บทบัญญัติแห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1598/19 ถึง 1598/43
รวมถึงอยู่ภายใต้การกำกับของ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พม.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

โดยทั่วไป การรับบุตรบุญธรรมต้องได้รับ ความยินยอมจากบิดามารดาโดยชอบด้วยกฎหมายของเด็ก และต้องดำเนินการผ่านกระบวนการสอบสวนและอนุมัติจากหน่วยงานรัฐ

 

ข้อกำหนดเบื้องต้นของสามีต่างชาติที่ต้องการรับบุตรเป็นบุตรบุญธรรม

  1. ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี และอายุมากกว่าเด็กอย่างน้อย 15 ปี(ตาม มาตรา 1598/24)
  2. มีความสามารถตามกฎหมายในการปกครองบุตรเช่น ไม่มีความผิดอาญาร้ายแรง หรือประวัติทำร้ายเด็ก
  3. มีภูมิลำเนาหรือที่อยู่ถาวรที่ชัดเจน ทั้งในประเทศไทยหรือในต่างประเทศ (กรณีจะนำเด็กไปอุปการะในต่างประเทศ ต้องดำเนินการตามอนุสัญญาว่าด้วยการรับบุตรบุญธรรมระหว่างประเทศ - Hague Adoption Convention)
  4. ต้องได้รับความยินยอมจากบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของเด็ก (อดีตสามีคนไทย) เว้นแต่:
  • บิดาถูกเพิกถอนอำนาจปกครองตามคำสั่งศาล
  • บิดาเสียชีวิต
  • หรือบิดาหายสาบสูญโดยคำสั่งศาล

 

ขั้นตอนการดำเนินการรับบุตรบุญธรรมโดยสามีต่างชาติ


กรณีที่มารดาและสามีต่างชาติอาศัยอยู่ในประเทศไทย

  1. ติดต่อสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ยื่นคำร้องขอรับบุตรบุญธรรม ณ ศูนย์อำนวยการรับบุตรบุญธรรม

    เตรียมเอกสารประกอบ ได้แก่:
สำเนาทะเบียนบ้าน/พาสปอร์ตของผู้ขอรับบุตรบุญธรรม
  1. สูติบัตรเด็ก
  2. หนังสือแสดงความยินยอมของบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย
  3. ทะเบียนสมรสกับมารดา
  4. รายงานสถานะครอบครัว
  5. รายงานการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ขอรับบุตรบุญธรรม (จากทนายหรือเจ้าหน้าที่ พม.)
  6. เจ้าหน้าที่สอบสวนผู้เกี่ยวข้อง เช่น มารดา บิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย เด็ก และสามีต่างชาติ
  7. พิจารณาและอนุมัติการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม หากครบถ้วนและไม่ขัดกับสวัสดิภาพของเด็ก
  8. ลงทะเบียนการรับบุตรบุญธรรมที่สำนักงานเขต/อำเภอ โดยมีผลทางกฎหมายในฐานะบุตรชอบด้วยกฎหมาย (legal child)

 

กรณีที่บิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่ยินยอม หรือ ไม่สามารถให้ความยินยอมได้

 

ตาม มาตรา 1598/30 และ 1598/31
ผู้ยื่นคำร้องสามารถยื่นคำร้องขอศาลให้มีคำสั่งแทนความยินยอมได้ หากปรากฏว่า:

  • บิดาทอดทิ้งบุตรเป็นระยะเวลานาน
  • บิดาไม่ติดต่อหรือไม่ให้การอุปการะเลี้ยงดูเลย
  • บิดาไม่สามารถติดต่อได้ หรือหายสาบสูญโดยศาลมีคำสั่งรับรอง

 

กรณีที่สามีต่างชาติต้องการนำเด็กกลับไปเลี้ยงดูในต่างประเทศ


ต้องดำเนินการตามระบบของ Hague Adoption Convention หากประเทศนั้นๆ เป็นภาคี โดยต้อง:

  • ขออนุญาตจากสำนักงานพม.
  • ผ่านการสอบสวนโดยองค์กรในประเทศปลายทาง (เช่น หน่วยงานเด็กของสหรัฐฯ, ออสเตรเลีย, เยอรมนี)
  • มีเอกสารยืนยันการรับรองสถานะบุตรบุญธรรมข้ามชาติ


หากประเทศของสามีไม่ได้เป็นภาคี Hague อาจต้องใช้ขั้นตอนพิเศษของแต่ละประเทศปลายทาง

 

ผลทางกฎหมายของการรับบุตรบุญธรรมในประเทศไทย

 

  • บุตรมีสถานะเป็น บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของสามีต่างชาติ
  • มีสิทธิใช้นามสกุลของผู้รับบุตรบุญธรรม
  • มีสิทธิได้รับมรดกเช่นเดียวกับบุตรแท้ (ตาม มาตรา 1627)
  • สามารถใช้เอกสารนี้ในการยื่นขอวีซ่า / สัญชาติ / ย้ายถิ่นฐานในต่างประเทศ
  • เมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตให้รับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมโดยไม่ต้องมีความยินยอมของบิดา การดำเนินการก็สามารถดำเนินต่อได้ตามขั้นตอนปกติ

NEWS : knightlegalinternational


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy